วันจันทร์ที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2559

เคล็ดลับเด็ดสุดง่ายหมักหมูโดยใช้วัตถุดิบใกล้ตัว

เลือกเนื้อหมูก่อนหมัก 

          การเลือกเนื้อหมูที่นำมาใช้หมัก ต้องเลือกเนื้อหมูที่มีสีแดงอมชมพู ลักษณะเนื้อนุ่มเป็นมัน มีความลื่น สีไม่ซีด หรือเขียวคล้ำ ไม่มีแมลงต่าง ๆ ตอม เมื่อใช้นิ้วกดที่ลงไปต้องคืนตัวได้ดีไม่เกิดรอยบุ๋มตรงที่เรากด ถ้าเนื้อมีรอยบุ๋มแสดงว่าเป็นเนื้อหมูค้างคืน หรือจะใช้วิธีดมกลิ่นก็ได้ กลิ่นต้องเป็นไปตามธรรมชาติ ไม่แรงเกินไป และเมื่อซื้อเนื้อหมูมาแล้ว ควรล้างให้สะอาด ก่อนปรุงอาหารด้วย



วัตถุดิบต่าง ๆ ที่นำมาหมักหมู
           หลังจากที่เราเลือกเนื้อหมูส่วนต่าง ๆ ที่ชอบได้แล้ว ต่อไปก็มาเลือกวัตถุดิบในการหมักที่จะช่วยทำให้หมูของคุณนุ่มชุ่มลิ้น ถ้าเลือกถูกก็มีชัยไปกว่าครึ่งแล้วล่ะ และที่สำคัญยังเป็นวัตถุดิบที่มักจะมีติดครัวกันอยู่แล้วด้วย

           1. น้ำสับปะรด โซดา ไวน์ เบียร์ โค้ก หรือน้ำอัดลม วัตถุดิบต่าง ๆ เหล่านี้มีฤทธิ์เป็นกรดเมื่อนำไปหมักจะช่วยทำให้โปรตีนในเนื้อสัตว์เปื่อยยุ่ยและนุ่มขึ้น เมื่อเรานำเนื้อสัตว์ที่หมักแล้วไปทำให้สุก รสสัมผัสของเนื้อที่ได้จะไม่แห้งกระด้าง

           2. น้ำมันงา ซอสหอยนางรม ซีอิ๊วขาว และซอสปรุงรส นอกจากเครื่องปรุงเหล่านี้จะใส่เพื่อเพิ่มกลิ่นและรสชาติให้กับเนื้อสัตว์แล้ว เครื่องปรุงต่าง ๆ เหล่านี้จะแทรกเข้าไปในเนื้อหมูทำให้รสสัมผัสชุ่มชื่นขึ้นอีกด้วย

           3. แป้งมันสำปะหลัง หรือแป้งข้าวโพด เมื่อนำแป้งลงไปหมักกับเนื้อสัตว์ แป้งเหลานี้จะไปเคลือบผิวของเนื้อหมูจะทำให้เนื้อนุ่มแบบเด้ง ๆ เหมือนหมูในราดหน้านั่นเอง
         
           4. เบกกิ้งโซดา หรือผงฟู สารเหล่านี้มีฤทธิ์เป็นด่างอ่อน ๆ นอกจากจะใช้ใส่เวลาทำขนมเค้กหรือขนมปังให้ขึ้นฟูแล้ว ยังสามารถนำมาหมักหมูให้นุ่มได้โดยใส่เบกกิ้งโซดาเพียงเล็กน้อยลงไปหมักด้วยก็จะทำให้หมูนุ่มขึ้น แต่อย่าใส่มากเกินไปจะมีกลิ่นของสารเคมี

           5. น้ำตาลทราย เมื่อนำน้ำตาลทรายไปหมักกับหมู พอน้ำตาลทรายละลายแล้วจะแทรกซึมเข้าไปในเนื้อหมูจะทำให้เนื้อนุ่ม มีความชุ่มฉ่ำน่ารับประทานยิ่งขึ้น

           6. นมสด หรือกะทิ เมื่อนำเนื้อหมูที่หมักกับนมสดหรือกะทิไปปรุงอาหาร ระหว่างนั้นนมสดหรือกะทิจะซึมออกมาจากเนื้อจะทำให้มีความนุ่มหอมมันยิ่งขึ้น

           7. น้ำมะนาว น้ำมะนาวมีฤทธิ์เป็นกรด เมื่อนำไปหมักจะสามารถย่อยเอนไซม์ในเนื้อหมูทำให้เนื้อหมูนุ่มได้

           8. ยางมะละกอ การใข้ภูมิปัญญาชาวบ้านด้วยการนำยางจากก้านมะละกอ หรือขั้วมะละกอไปหมักเนื้อหมูก็จะได้เนื้อหมูที่นุ่มแล้ว แต่ควรระวังอย่าใส่มากเกินไปเพราะจะทำให้เนื้อหมูเปื่อยจนกลายเป็นหมูยุ่ยได้

           9. น้ำมันพืช หรือน้ำมันมะกอก น้ำมันมีความมัน ลื่น และเงางามเมื่อนำไปหมักกับเนื้อสัตว์แล้วจะช่วยทำให้เนื้อหมูนั้นชุ่มฉ่ำและนิ่มขึ้น

           10. ไข่ขาว หรือไข่ไก่ เพราะสารในไข่ไก่จะเข้าไปทำปฏิกิริยาย่อยโปรตีนในเนื้อหมู ทำให้เนื้อหมูนิ่มมากแต่ไม่ยุ่ย

           11. หอมใหญ่ วิธีนี้ทำง่าย ๆ โดยการสับหอมใหญ่ให้ละเอียดแล้วใส่ลงไปรวมกับเนื้อ เพราะในหอมใหญ่ดิบจะมีเอนไซม์ที่จะช่วยทำให้เนื้อนิ่มขึ้น แต่ก็ต้องใช้เวลาในการหมักเป็นชั่วโมง


ขอบคุณที่มา : cooking.kapook.com

วันอาทิตย์ที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2559

การหมักเนื้อหมู เคล็ดลับทำให้หมูนุ่มอร่อย

การหมักเนื้อหมู ให้นุ่มนั้นไม่ใช่เรื่องยากและแม่ครัวประจำบ้านรู้กันอยู่แล้วแต่การหมักหมูที่ถูกต้องและอร่อยมากยิ่งขึ้นต้องขึ้นกับการเลือกส่วนของเนื้อหมูและส่วนผสมที่พอเหมาะหลายคนยังอาจจะไม่เคยรู้ วันนี้จึงมานำเสนอการการหมักหมู หมูปิ้ง ตามส่วนต่างๆ ของหมูกันเลยค่ะ
                                             
                                            1) ส่วนของเนื้อหมูที่ไม่มีไขมัน เช่น เนื้อสันในหมู

 จะทำให้หมูนุ่มขึ้นโดยใส่ไข่ไก่และนมสดจืดในการหมัก จะทำให้หมูชุ่มชื่น เพิ่มรสชาติด้วยซอสปรุงรสอีกนิด แค่นี้เนื้อหมูของคุณก็พร้อมที่นำไปทำอาหารแล้วค่ะ

2) ส่วนของเนื้อหมูที่มีเส้นใยมาก เช่น ขา สันนอก และเนื้อสะโพก
หมักด้วยน้ำสับปะรด 1 ช้อนโต๊ะ หรือสับปะรดหั่น2-3ชิ้น หั้นเป็นชิ้นเล็ก (สับปะรดไม่ควรมากเกินไปอาจทะให้เนื้อหมูเละไม่อร่อยได้) จะทำให้เนื้อหมูอ่อนนุ่ม และยุ้ยเปื่อยขึ้น แต่วิธีนี้จะไม่ทำให้ชุ่มชื้น
3) เนื้อหมูส่วนที่สำหรับทำสเต็ก
                                     ใส่น้ำสับปะรด 1 ช้อนโต๊ะและใช้ฆ้อนทุบเบาๆ ก่อนนำไปทำสเต็ก


เคล็ดลับอื่นๆในการหมักเนื้อหมูยังมีอีกหลายวิธี

  • หมักเนื้อหมูด้วยไข่ไก่และนมสดชนิดจืด : จะให้ผลคล้ายๆกัน คือ เนื้อหมูจะนุ่มและดูชุ่มชื้น เหมาะกับการหมักเนื้อหมูส่วนที่ไม่มีไขมัน หรือมีมันน้อย เช่น เนื้อสันใน เวลาหมักจะใส่ซีอิ้วขาวหรือซอสปรุงรสลงไปด้วยก็ได้ เป็นการเพิ่มรสชาติให้หมูอร่อยยิ่งขึ้น จากนั้นนำหมูที่หมักใส่ตู้เย็นพักไว้ประมาณ 30 นาที 1 ชั่วโมง
  • หมักเนื้อหมูด้วยสับปะรด โซดา ไวน์ และ เบียร์ : สูตรใดสูตรหนึ่งเพียงอย่างเดียวจะให้ผลคล้ายกัน คือ เนื้อจะอ่อนนุ่มมาก แต่ไม่ชุ่มชื้น เหมาะสำหรับหมักกับเนื้อส่วนที่มีเส้นใยมากๆ และมีมันปนอยู่บ้าง เช่น เนื้อสะโพก จากนั้นนำหมูที่หมักใส่ตู้เย็นพักไว้ประมาณ15- 30 นาที หมูปิ้งนมสด
  • หมักเนื้อหมูด้วยน้ำมันงา แป้งมัน น้ำมันหอย เกลือ น้ำตาลทราย พริกไทยป่น ซีอิ้วขาว : วิธีนี้ก็ทำให้นุ่มน่ากินมากขึ้น จากนั้นนำหมูที่หมักใส่ตู้เย็นพักไว้ประมาณ 30 นาที 1 ชั่วโมง หรือมากกว่านั้นยิ่งดี ก่อนจะเอาไปประกอบอาหารสัก 15 นาที ให้นำสับปะรดมาคลุกเคล้ากันก่อน รับรองว่าหมูนุ่มชัวร์
ขอบคุณที่มา  food.mthai.com

วันพฤหัสบดีที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2559

หมูย่างจิ้มแจ่ว


สิ่งที่ต้องเตรียม
1. สันคอหมู ซื้อที่โลตัส (อีกแล้ว) 
2. น้ำมะนาว (ในรูปใช้ใบเดียวเอง)
3. พริกไทยเม็ด
4. พริกป่น
5. ผักชีฝรั่งซอยหยาบ 
6. ซอสปรุงอาหารแม็กกี้
7. ซอสหอยนางรมแม็กกี้
8. ซอสเหยาะจิ้ม แม็กกี้ หมูปิ้ง
9. น้ำตาลทราย
ขั้นตอน :
1. หมักหมูกันก่อน โดยเอาหมูมาหั่นเป็นชิ้นๆ (ยังไม่ต้องซอยนะ) แล้วใส่ซอสปรุงอาหารแม็กกี้ 1 ช้อนโต๊ะ / ซอสหอยนางรมแม็กกี้ 1 ช้อนโต๊ะ พริกไทยเม็ดตำแหลก แล้วคลุกๆๆๆๆ เอาไปแช่ตู้เย็นจับเวลา ½ ชมเลย
2. จี่หมู โดยวิธีดังนี้
ตั้งไฟกลางๆใส่น้ามันเล็กน้อย หมูปิ้ง
- เมื่อน้ำมันร้อนแล้วจัดเนื้อหมูลงไปเลย 
- คอยกลับหมูเรื่อยๆ นะ พอดูเนื้อว่าสุกแล้วก็เอาขึ้น
วิธีทำ : น้ำจิ้มแจ่ว 
- ใส่ซอสแม็กกี้ 2 ช้อนโต๊ะ 
- น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ 
- น้ำมะนาว 
- พริกป่นใส่เยอะถ้าชอบเผ็ด 
นำส่วนผสมทั้งหมดมาคลุกให้เข้ากัน

ขอบคุณที่มา .tnews.co.th

วันจันทร์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2559

หมูปิ้ง สูตรกะทิ หวาน นุ่ม ถูกใจคนทั้งโลก


อยากทำหมูปิ้งขาย ไม่มีสูตร ทำอย่างไร สูตรหมูปิ้งเงินล้าน หวาน นุ่ม มัน วิธีทำหมูปิ้ง สูตรกะทิ สอนทำหมูปิ้ง ปิ้งหมูอย่างไรให้อร่อย หมูปิ้ง วิธีทำ กับข้าวง่ายๆ

ส่วนผสมสำหรับทำ หมูปิ้งสูตรกะทิ

หมูสันนอก หรือ หมูสันใน 1 กิโล
มันหมู 1/2 กิโล
รากผักชีบด 2 ช้อนโต้ะ
กระเทียมบด 2 ช้อนโต้ะ
น้ำเปล่า 1 ถ้วย
น้ำมันพืช 3 ช้อนโต้ะ
น้ำมันหอย 4 ช้อนโต้ะ
ซอสถั่วเหลือง 4 ช้อนโต้ะ
น้ำมันงา 2 ช้อนโต้ะ
หัวกะทิ 1 ถ้วย
เกลือ 2 ช้อนโต้ะ
น้ำตาลปี๊บ 1 ถ้วย
แป้งข้าวโพด 3 ช้อนโต้ะ
ไม้จิ้มลูกชิ้น 1 มัด

ขั้นตอนการทำ หมูปิ้งสูตรกะทิ

1. หั่นเนื้อหมุและมันหมู ความหนาประมาณ 3 มิล และกว้างประมาณ 3 เซ็นติเมตร จากนั้นเตรียมน้ำหมักหมู โดย
2. ผสม รากผักชี กระเทียม น้ำมันงา น้ำมันหอย ซอสถั่วเหลือง หัวกะทิ น้ำตาล เกลือ และน้ำมันพืช ให้เข้ากัน จากนั้นนำหมูและมันหมูที่หั่นไว้แล้วลงไปนวด
3. นวดจนเนื้อหมูและมันหมู ดูดน้ำหมักจนแห้ง จากนั้นเติมแป้งข้าวโพดลงไปนวดกับหมู และนำไปใส่กล่องและแช่ในตู้เย็น 1 คืน
4. เมื่อหมักหมู 1 คืนแล้ว นำมาเสียบไม้ โดยไม้ที่ใช้เสียบต้องแช่น้ำก่อน 1 คืน เช่นกัน เพื่อให้ไม้อุ้มน้ำเวลาปิ้งไม้จะไม่ไหม้ เสียบหมูโดยให้เนื้อหมูสลับกับมันหมู ให้ได้ขนาดตามที่เราต้องการ เสียบเสร็จก็นำเนื้อหมูเสียบไม้แล้วแช่ในตู้เย็นต่ออีก 1 คืน จากนั้นเราก็สามารถนำมาปิ้ง เป็นหมูปิ้งกะทิ เงินล้านได้แล้ว เคล็ดลับการปิ้งหมูให้อร่อย คือ ใช้ไฟอ่อน ปิ้งหมูให้สุกเป็นด้านๆ อย่าพลิกหมูกลับไปกลับมา แค่นี้ เราก็จะได้หมูปิ้งที่ หวาน อร่อย แล้ว
ขอบคุณที่มา nlovecooking.com

วันอาทิตย์ที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2559

เลือกเนื้อหมูอย่างไร ปลอดภัยจาก "สารเร่งเนื้อแดง"


 ผู้บริโภคหลายคนเชื่อว่าการมีสุขภาพดี ล้วนขึ้นอยู่กับอาหารและวัตถุดิบที่เราบริโภคเข้าไป ยิ่งถ้าเราเลือกสรรอย่างดีสะอาดปลอดภัยไร้สารปนเปื้อน ก็จะทำให้มีสุขภาพดี ไม่มีสารตกค้างในร่างกาย แต่ถ้าเมื่อไหร่ เลือกวัตถุดิบที่มีสารเจือปนมาแล้วละก็ คุณอาจจะมีโรคภัยแฝงอยู่ตามร่างกาย ก็เป็นได้ ซึ่งในปัจจุบันนับว่าผู้บริโภคโชคดีเป็นอย่างมากที่มีหน่วยงานเข้ามา สอดส่องดูแลเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด รวมถึงได้รับความร่วมมือ จากเครือข่ายภาคเกษตรกรและประชาชนทุกคน
          อย่างในกรณีเนื้อสัตว์ ที่มีกรมปศุสัตว์คอยตรวจสอบเรื่องนี้อยู่เสมอ โดยเฉพาะการลักลอบใช้สารกลุ่มเบต้าอะโกนิสท์ หรือที่รู้จักกันในชื่อ 'สารเร่งเนื้อแดง' เพื่อปกป้องคุ้มครอง ผู้บริโภคเนื้อหรือผลิตภัณฑ์จากสุกรไม่ให้ได้รับอันตรายจากสารเร่งเนื้อแดง โดยเน้นการควบคุมและตรวจสอบฟาร์มสุกร รวมถึงโรงฆ่าสัตว์ทั่วประเทศ ซึ่งเรื่องนี้ต้องขอยกนิ้วชื่นชมกับการทำงานอย่างแข็งขันของ กรมปศุสัตว์ เพราะช่วยสร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภค หมูปิ้ง ว่าเนื้อสัตว์ของไทยปลอดภัยบริโภคไดอย่างไร้กังวล
          นอกจากนี้ กระทรวงเกษตร และสหกรณ์ยังได้ประกาศห้ามใช้สารดังกล่าวเป็นส่วนผสมในการผลิต และนำเข้า ซึ่งอาหารสัตว์ ตามพระราชบัญญัติ ควบคุมคุณภาพอาหารสัตว์มาตั้งแต่ พ.ศ. 2525 และพระราชบัญญัติ ควบคุมคุณภาพอาหารสัตว์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2542 ซึ่งที่ผ่านมา กรมปศุสัตว์ ได้ทำโครงการแก้ไขปัญหาการใช้สารเร่ง ในหมูมาอย่างต่อเนื่อง ด้วยการรณรงค์ให้เกษตรกรเลิกใช้สารเร่งเนื้อแดงเพื่อป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพของ ผู้บริโภค ขณะเดียวกันก็ได้เร่งเข้าตรวจสอบ ผู้ประกอบการอย่างเข้มงวดมากขึ้น พร้อมทั้งปราบปรามอย่างจริงจัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อประเทศไทย ได้เริ่มดำเนินนโยบายความปลอดภัยทาง ด้านอาหารเมื่อปี 2546 ทุกภาคส่วนก็ได้มีมาตรการต่างๆ เพื่อตอบสนองนโยบาย ดังกล่าวอย่างต่อเนื่องมาตลอด และจากความเข้มงวดในการปฏิบัติงานของพนักงานเจ้าหน้าที่ของกรมปศุสัตว์ ทำให้มีการใช้สารเร่งเนื้อแดงของผู้เลี้ยงสุกรลดลง

          เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ผู้บริโภคก็เริ่มอุ่นใจและไว้วางใจเนื้อหมูของไทย เพิ่มมากขึ้น แต่ถ้าจะให้ดีเราก็ต้องคอยระมัดระวังในการเลือกซื้อเนื้อหมู เช่นกัน อย่างไรก็ตาม เวลาซื้อเนื้อหมูอาจจะ ไม่สามารถมองเห็นความแตกต่างระหว่างหมูที่มีสารเร่งเนื้อแดง กับหมูที่ปลอดสารเร่งเนื้อแดงได้ ดังนั้นผู้บริโภคจึงควรเลือกซื้อผลิตภัณฑ์หมูสด จากผู้ประกอบการที่เชื่อถือได้ และที่สำคัญคือได้รับการรับรองผ่านมาตรฐานจาก กรมปศุสัตว์ เพื่อให้มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์ที่เลือกซื้อไปปลอด สารเร่งเนื้อแดง หมูปิ้งนมสด และปลอดภัยจากยาปฏิชีวนะและสารตกค้างต่างๆ ยิ่งถ้าสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ถึงแหล่งที่มาของวัตถุดิบ ก็จะยิ่งส่งเสริมให้เกิดความมั่นใจ ในคุณภาพว่าปลอดภัยแน่นอน
          สำหรับการเลือกซื้อเนื้อหมูใน ครั้งต่อๆ ไป ขอให้ผู้บริโภคใส่ใจ รายละเอียดดังกล่าว เพื่อให้ได้เนื้อหมูคุณภาพดีมาบริโภคอย่างปลอดภัย


วันพฤหัสบดีที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2559

วิธีทำ หมูกรอบ ให้อร่อยง่ายนิดเดียว

วิธีทำ หมูกรอบ ให้อร่อย กรอบนอกนุ่มไม่ใช่เรื่องยากเลยค่ะ ทำให้หมูกรอบนั้นมันสุกทั่วกันมีเคล็ดลับทำไม่ยากเลย


วัตถุดิบก็ไม่มีอะไรมาก แค่เตรียมหมู 3 ชั้น เกลือ 1 ช้อนชา น้ำมันพืช
วิธีทำ
  1. ต้มน้ำ ปริมาณน้ำให้ท่วมตัวหมูสามชั้น และใส่เกลือลงไป
  2. พอน้ำเดือดดีแล้ว ใส่หมูสามชั้นลงไปเลย ต้มประมาณ 5 นาที
  3. น้ำหมูขึ้นมาสะเด็ดน้ำ แล้วพักไว้จนแน่ใจว่าแห้งดีไม่มีน้ำในหมูเพราะตอนนำไปทอดถ้ามีน้ำอาจทำให้น้ำมันกระเด็นได้
  4. ตั้งน้ำมันให้พอท่วมพอดีกับหมูสามชั้น (แนะนำให้ใช้หม้อทอดเพื่อไม่เปลืองน้ำมัน) ตั้งไว้จนน้ำมันเดือดจากนั้นลดไฟให้อยู่ระดับปานกลาง และใส่หมูสามชั้นลงไปเลย ทอดจนเหลืองกรอบ แค่นี้เป็นอันเสร็จ หมูปิ้ง หมูปิ้งนมสด


ขอบคุณที่มา  food.mthai.com

วันพุธที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2559

วิธีการการดูแลหมูขุน


การเลี้ยงหมูขุนเป็นอีกอาชีพหนึ่งที่เกษตรกรในหลาย ๆ พื้นที่สนใจเลี้ยง แต่ถ้าเกษตรนำหมูมาเลี้ยง โดยให้อาหารเพียงอย่างเดียว ก็ไม่ทำให้เกิดอะไรดีขึ้น 
คุณสมพักตร์ ศรีนิล ซึ่งเป็นสมาชิกคนหนึ่งของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนการเลี้ยงหมูหลุมบ้านหน้าเขา อำเภอบ้านตาขุน จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ชี้แนะทางเลือกการเลี้ยงหมูขุนเพื่อเป็นทางเลือกอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับเกษตรกรที่มีอาชีพนี้ กล่าวว่าตนเองได้เลี้ยงหมูขุนไว้ จำนวน 1 คอก ซึ่งเป็นคอกปูพื้นซีเมนต์ขนาดคอกกว้าง 4 เมตร ยาว 6 เมตร เลี้ยงหมูจำนวน 10 ตัว เลี้ยงมานานแล้ว โดยเลี้ยงเป็นอาชีพเสริมที่สร้างรายได้ให้กลับครอบครัวเป็นอย่างดี การทำหมูปิ้ง หมูปิ้งนมสด

วิธีการเลี้ยงหมูขุน ทำได้ดังนี้ 
1.เมื่อนำหมูมาเลี้ยง ให้เกษตรกรนำน้ำมาใส่ไว้ในคอกหมูส่วนหลังของคอก แล้วก็ล้างคอกวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น โดยจะมีน้ำขี้หมูไหลไปลงบ่อ
2.ขุดบ่อ 1 ลูก ขนาดบ่อ ใช้ปล่องซีเมนต์ ขนาด 120 ซ.ม. จำนวน 5 ลูกซ้อนกัน
3.ใช้สารเร่ง พ.ด. 6 ละลายน้ำ 1 ปี๊บ นำเศษอาหาร จำนวน 40 กิโลกรัม กากน้ำตาล 10 กิโลกรัม ผสมรวมกันหมักไว้ 12 วัน เก็บไว้ในที่ร่ม ใช้ราดคอกอาทิตย์ละ 2 ครั้ง เพื่อลดกลิ่นเหม็นของคอกหมู หรือจะนำไปผสมกับอาหารหมูขุน อัตราส่วน 1: 5 ใส่ให้หมูกิน เมื่อหมูถ่ายออกมากลิ่นของขี้หมูก็จะไม่มีกลิ่นเหม็นที่รุนแรง
4.เมื่อเลี้ยงหมู ได้อายุ 4 เดือน น้ำหนักของหมูที่เลี้ยงจะอยู่ที่ 80 - 125 กิโลกรัม ต่อ 1 ตัว หมูจะโตเร็ว สุขภาพหมูดีและสะอาด
5.นำขี้หมูที่ล้างลงบ่อซีเมนต์ สูบไปใช้รดต้นไม้ในสวนผลไม้ สวนยางพารา ก็ช่วยให้ได้ผลผลิตดีขึ้นอีกด้วย
ข้อดี 
1. ได้ปุ๋ยหมักน้ำใช้โดยไม่ต้องใช้แรงงานเพิ่ม ไม่ต้องลงทุนเพิ่ม
2. ไม่มีมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม
3. หมูโตเร็ว สุขภาพดีไม่มีปัญหาเรื่องการเลี้ยง

เป็นอีกทางเลือกหนึ่งของคนเลี้ยงหมูขุนให้ได้น้ำหนักดีและมีคุณภาพ แบบง่าย ๆ ที่มีประโยชน์มากมาย หากเกษตรกรท่านใดสนใจเกี่ยวกับการเลี้ยงหมูขุนเพิ่มเติม สามารถติต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนเลี้ยงหมูบ้านหน้าเขา อำเภอบ้านตาขุน จังหวัดสุราษฎร์ธานี เบอร์โทรศัพท์ 089-4699124
แหล่งที่มาของข้อมูล : สมพักตร์ ศรีนิล. สัมภาษณ์, 12 ตุลาคม 2555.
เรียบเรียงข้อมูลโดย : นงพงา ไกรวิลาศ. เจ้าหน้าที่สถานีวิทยุร่วมด้วยช่วยกันจังหวัดชุมพร.