ดร.สัจจา ระหว่างสุข รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ซีพีเอฟ กล่าวว่า หมูคูโรบูตะจะมีเอกลักษณ์ต่างจากหมูธรรมดา คือ มีขนสีดำ และเนื่องจากการเลี้ยงดูที่ดี อย่างการป้อนมันหวาน ให้พักผ่อนเต็มที่ และที่อยู่อาศัยสบาย ทำให้เนื้อหมูมีไขมันแทรกอยู่ในกล้ามเนื้อ หรือที่เรียกกันว่า ลายหินอ่อน (Marbling) มากกว่าปกติ ส่งผลให้เนื้อมีความนุ่มกว่าเนื้อหมูปกติกว่า 30% และรสชาติของเนื้อจะมีความฉ่ำ นุ่ม เนื่องจากมีอัตราการระเหยของน้ำจากเนื้อระหว่างปรุงอาหารน้อยกว่า โดยปกติแล้วเนื้อสัตว์ ไม่ว่าวัวหรือหมู จะมีราคาสูงขึ้นตามปริมาณไขมันที่แทรกอยู่ในเนื้อ แต่หมูคูโรบูตะของซีพีเอฟมีราคาย่อมเยาที่อัดแน่นไปด้วยคุณภาพ
“แม้ว่าเนื้อหมูคูโรบูตะจะมีไขมันแทรกในชั้นกล้ามเนื้อมากกว่าปกติ แต่ไขมันดังกล่าวเป็นไขมันดี ที่ให้พลังงานและสารอาหารแก่ร่างกาย พร้อมทั้งช่วยในการย่อยสลายคอเลสเตอรอล ทั้งยังมีวิตามินบี 1 มากกว่าเนื้อวัวถึง 10 เท่า และวิตามินจะไม่สลายไป เมื่อโดนความร้อนจากการปรุงอาหาร”
เนื้อหมูคูโรบูตะเป็นที่นิยมขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากเป็นเนื้อปลอดภัย รสชาติอร่อย กินแล้วไม่อ้วน และที่สำคัญ ราคาไม่สูงลิ่วเท่ากับเนื้อวัวมัตซึซากะ-วากิว-โกเบ
ร้านอาหารชื่อดังหลายแห่งก็ได้นำเนื้อหมูคูโรบุตะมาปรุงเป็นอาหารรสเลิศ ยกตัวอย่างเช่น หมูดำสไลด์ชิ้นบางสำหรับชาบู ชาบู ที่หอม นุ่ม ละลายในปาก กินคู่กับน้ำจิ้มรสเข้มข้น หมูปิ้ง และพอร์คชอปชิ้นหนา เต็มๆคำ ย่างไฟในเตาถ่านให้มีกลิ่นหอมรัญจวนใจ หรือจะเป็นชิ้นหมูดำสามชั้นที่หมักเครื่องเทศ แล้วนำทอดจนกรอบออกสีเหลืองทอง รวมไปถึงเบค่อนหมูดำพันเห็ดเข็มทองผัดเนย ก็เป็นเมนูเรียกน้ำย่อยได้อย่างดี
ขอบคุณที่มา : www.cpthailand.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น